เคล็ดลับการทำนายหน้าอสังหาฯแบบมือโปร
วิธีใช้ Storytelling เพิ่มมูลค่าการขายอสังหาฯอย่างมีประสิทธิภาพ
พ.ย.
ในฐานะนักขายอสังหาฯ เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาการนำเสนอที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างที่ต้องการ หรือทำให้ลูกค้าจดจำรายละเอียดของทรัพย์ที่นำเสนอได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก ทั้งการพลาดโอกาสในการปิดการขาย การสูญเสียลูกค้าให้คู่แข่ง หรือแม้กระทั่งการที่ลูกค้าไม่เห็นคุณค่าของทรัพย์ จนส่งผลต่อราคาขายและรายได้ในภายหลัง
แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคการใช้ Storytelling ในการนำเสนออสังหาฯอย่างมีประสิทธิภาพ Storytelling คือการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของการเล่าเรื่อง ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกผูกพันและกระตุ้นจินตนาการของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการขายอสังหาฯ จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพคุณค่าและสัมผัสถึงประสบการณ์การอยู่อาศัยในทรัพย์นั้นๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
เทคนิค Storytelling ง่ายๆ ที่นักขายอสังหาฯสามารถนำไปใช้ได้ทันที มีดังนี้
- สร้างภาพของชีวิตในทรัพย์นั้น
แทนที่จะพูดถึงสเปคของทรัพย์แบบตรงๆ เช่น “คอนโดนี้มี 2 ห้องนอน” ลองเปลี่ยนเป็นการสร้างภาพในหัวของลูกค้าแทน เช่น “ลองจินตนาการถึงทุกเช้าที่คุณตื่นขึ้นมาในห้องนอนหลักที่มีวิวเมืองสวยงาม ในขณะที่ลูกของคุณกำลังเตรียมตัวไปโรงเรียนในห้องนอนที่สอง ช่างเป็นการเริ่มต้นวันที่สมบูรณ์แบบ” การเพิ่มรายละเอียดชีวิตประจำวันแบบนี้ ช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพการใช้ชีวิตในทรัพย์นั้นได้ชัดเจนขึ้น สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของบ้าน จนอยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้นบ้าง
- บอกเล่าเรื่องราวของย่านที่ตั้ง
การย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ ไม่ได้หมายถึงแค่การย้ายเข้าไปในตัวบ้าน แต่ยังหมายถึงการย้ายเข้าไปอยู่ในละแวกบ้านและชุมชนแห่งใหม่ด้วย ดังนั้นการใช้ Storytelling บอกเล่าถึงเรื่องราวและเสน่ห์ของย่านที่ตั้ง ก็สามารถสร้างแรงดึงดูดให้กับทรัพย์ได้เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะบอกแค่สั้นๆ ว่า “มีร้านอาหารหลายร้านแถวนี้” ลองเพิ่มรายละเอียดให้มีสีสันมากขึ้นว่า “ทุกเย็นวันศุกร์ คุณสามารถเดินไปที่ถนนสายอาหารที่อยู่ห่างออกไปเพียง 5 นาที ที่นั่นคุณจะได้ลิ้มลองอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ซูชิญี่ปุ่น พาสต้าอิตาเลียน ไปจนถึงสตรีทฟู้ดของหลากหลายประเทศ ทุกครั้งที่ไปจะได้เจอเพื่อนบ้านมานั่งทานอาหารพร้อมพูดคุยกัน รู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเลยล่ะ”
เรื่องราวของย่านที่มีชีวิตชีวาแบบนี้ จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพไลฟ์สไตล์ที่จะได้รับ และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่อบอุ่นแบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา การเพิ่มมูลค่าให้กับทำเลที่ตั้งด้วยวิธีนี้จึงช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับทรัพย์ได้ไม่น้อย
- เล่าเรื่องราวความทรงจำในบ้านหลังนั้น
บ้านแต่ละหลังล้วนอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำของผู้อยู่อาศัย การนำเรื่องราวเหล่านั้นมาถ่ายทอดให้ลูกค้าฟัง จะช่วยเพิ่มความรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนั้นได้เป็นอย่างดี เหมือนกับการส่งต่อความสุขและความอบอุ่นจากรุ่นสู่รุ่น
ยกตัวอย่างเช่น หากมีข้อมูลจากเจ้าของบ้านเดิม ก็สามารถนำมาเล่าได้ว่า “บ้านหลังนี้เคยเป็นของครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 20 ปี พวกเขาเฝ้าดูลูกๆ เติบโตขึ้นมาพร้อมกับบ้านหลังนี้ ทั้งวิ่งเล่นในสวนหลังบ้าน ปีนป่ายต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้ตั้งแต่สมัยปู่ย่า และยังมีงานสังสรรค์สนุกๆ กับครอบครัวและเพื่อนบ้านในทุกๆ ฤดูร้อน ตอนนี้พวกเขาต้องย้ายไปต่างประเทศด้วยเหตุผลด้านการงาน แต่บ้านหลังนี้ยังคงเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ที่พร้อมจะส่งต่อให้กับครอบครัวใหม่ได้สร้างขึ้นมาอีกครั้ง”
การเล่าถึงความสุขและความผูกพันที่เคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่นและเห็นคุณค่าทางใจของบ้านหลังนี้ได้ดียิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าการใช้ Storytelling ในการนำเสนออสังหาฯนั้น สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับทรัพย์ได้อย่างมหาศาล ทั้งยังช่วยสร้างความแตกต่างให้กับการขายของคุณ ทำให้ลูกค้าประทับใจและจดจำทรัพย์ของคุณได้ดีกว่าคู่แข่งแน่นอน
เคล็ดลับสำคัญคือ จงหาเรื่องราวที่โดดเด่นที่สุดมา 1-2 เรื่อง ไม่จำเป็นต้องยัดทุกเรื่องลงไปในการพรีเซนต์ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวเหล่านั้นอย่างสนุกสนาน ใส่อารมณ์และรายละเอียดให้มากพอ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ และเห็นภาพการใช้ชีวิตในทรัพย์นั้นได้อย่างชัดเจน
หากคุณเริ่มนำ Storytelling ไปใช้อย่างสม่ำเสมอในการนำเสนออสังหาฯ รับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งลูกค้าสนใจมากขึ้น ปิดการขายได้ง่ายขึ้น และยอดขายก็จะพุ่งทะยานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการทำยอดขายนะคะ แล้วอย่าลืมนำ Storytelling ไปปรับใช้กันด้วยนะ ด้วยศักยภาพเต็มร้อย เชื่อว่าความสำเร็จไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนค่ะ!
