การซื้อบ้านคงเป็นความฝันของใครหลายๆ คน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก ทำให้หลายคนสงสัยว่าด้วยเงินเดือนที่ตนเองมีอยู่ จะมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้หรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน พร้อมแนะนำวิธีคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ปัจจัยสำคัญในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน
- รายได้ต่อเดือน
ธนาคารจะพิจารณารายได้ต่อเดือนเป็นหลัก ซึ่งรวมทั้งเงินเดือน โบนัส ค่าคอมมิชชั่น และรายได้อื่นๆ ที่ได้รับเป็นประจำ โดยรายได้ขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร - เงินออม
การมีเงินออมก้อนหนึ่งเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะเงินออมจะถูกใช้เป็นเงินดาวน์ สำหรับซื้อบ้านมือสอง เงินดาวน์จะอยู่ที่ 10-20% ของราคาบ้าน ส่วนบ้านใหม่จะประมาณ 5-10% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ - เครดิตบูโร
การมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ หากคุณเคยมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ หรือค้างจ่ายบิล ควรแก้ไขปัญหาเหล่านั้นก่อนยื่นกู้
วิธีคำนวณการผ่อนบ้าน
เมื่อรู้ปัจจัยที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาแล้ว เรามาลองคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านกัน โดยมีเกณฑ์การคำนวณคร่าวๆ ดังนี้
- เงินผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน
- เงินดาวน์และค่าใช้จ่ายแรกเข้า ประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน
- เลือกระยะเวลาผ่อนให้เหมาะกับความสามารถในการชำระ แต่ไม่ควรเกิน 30 ปี
โดยทั่วไปการคำนวณจะใช้สูตร ดังนี้
คำนวณวงเงินที่สามารถกู้ได้:
วงเงินที่กู้ได้ = ((รายได้ต่อเดือน x 40%) x ระยะเวลาการผ่อน) + เงินดาวน์
คำนวณเงินผ่อนต่อเดือน:
เงินผ่อนต่อเดือน = (วงเงินที่กู้ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี)/12
ตัวอย่างเช่น นาย ก. มีรายได้ 30,000 บาท ต้องการซื้อบ้านราคา 3 ล้าน โดยจะจ่ายเงินดาวน์ 15% จะสามารถผ่อนเดือนละเท่าไรได้บ้าง
1) คำนวณวงเงินที่กู้ได้
= ((30,000 x 40%) x (30×12)) + 450,000
= 5,760,000 บาท
2) คำนวณเงินผ่อนต่อเดือน
= (2,550,000 x 6%) / 12
= 12,750 บาท/เดือน
จะเห็นว่าเงินผ่อนในกรณีตัวอย่างอยู่ที่ 12,750 บาท ซึ่งยังไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน ถือว่านาย ก. สามารถผ่อนบ้านราคา 3 ล้านได้
แต่หากรายได้หรือเงินดาวน์ไม่เพียงพอ วิธีเสริมที่จะช่วยให้ซื้อบ้านได้ในอนาคต มีดังนี้
- เพิ่มรายได้ ด้วยการหางานเสริม หรือ side hustle
- เก็บออมเงินดาวน์ให้มากขึ้น อย่างน้อย 20-30% ของวงเงินกู้
- นำประกันชีวิตมาเป็นตัวเพิ่มวงเงินกู้
- หาผู้ค้ำประกันการกู้สินเชื่อ
- เลือกบ้านที่ราคาต่ำกว่า หรือเป็นบ้านมือสอง
สรุป การซื้อบ้านเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ ทุกคนอาจมีจุดตั้งต้นไม่เท่ากัน แต่ก็สามารถทำได้ หากมุ่งมั่นและวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ แม้อาจต้องใช้เวลานาน แต่ความฝันเป็นเจ้าของบ้านในวันหนึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หากขยันเก็บออม หมั่นติดตามข้อมูลโครงการบ้าน และไม่ยึดติดกับทำเลหรือราคาที่สูงเกินตัว วันหนึ่งความฝันนั้นจะไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป